Exhibition
1st - 28th December 2018
The
exhibition “Misgiving (The end)” is the continued exhibition from “Misgiving
(Part1)” since 2015. The artist Ratthaphoom Piwpantamit create
this exhibition by using his experience of the fatal
situation of his loved ones. The event from pain, cure, and death are shown
under his fragile feelings through the form of imagery to express the
uncertainty of life.
The
exhibition “Misgiving (The end)" Ratthaphoom express himself in the different
manner. The more time passed, the more experience of death that he have to
face. He mentioned that “Life is empty, death is normal, love and sacrifice are
the beauty of living and gone” that reflects on his artwork 'Existence' the
show how important the time is. Even one second matters and certainty are
temporary. The work ‘Always’ express the unconditional repeating behavior. The
image shows how people help each other unconditionally. The usage of one tone
of color in all the works in this exhibition makes the ambience feel very
sensitive but somehow makes us feel peaceful.
Ratthaphoom Piwpantamit
Bachelor’s Degree in Arts from Chulalongkorn University and Master’s Degree in
Arts from Silpakorn University. He received the youth of nation honor and
already had 3 solo exhibitions which are Delusion 2009, Conceal 2012, Misgiving
Part1 2015 and many group exhibition such as Art expo Malaysia 2009, ”ART
TAIPEI” Taiwan 2010 ,”AHAF” Hong Kong 2012, “ASIA CONTEMPORARY ART” Hong Kong
2015 and many more in both domestic and international level.
นิทรรศการ “ระแวงลม
(ภาคจบ) Misgiving (The end)” สืบเนื่องมาจากนิทรรศการ “ระแวงลม” (ภาคแรก) หรือ Misgiving
(Part
1)
เมื่อปี พ.ศ. 2558 ศิลปินรัฐภูมิ
ผิวพันธมิตร จัดแสดงผลงานจิตรกรรมสีน้ำมันจากการนำประสบการณ์ในสถานการณ์ที่ความเป็นและความตายชิดใกล้บุคคลอันเป็นที่รัก
สภาวะการเจ็บป่วย การปรนนิบัติดูแลไปจนถึงการสูญเสียพลัดพรากถูกนำเสนอและถ่ายทอดภายใต้ความรู้สึกที่เปราะบางอ่อนไหว
ผ่านการจัดวางรูปทรงในเชิงอุปมาเพื่อเป็นการแสดงออกถึงความไม่มั่นคงของชีวิต
นิทรรศการ
“ระแวงลม (ภาคจบ) Misgiving (The end)” ครั้งนี้ รัฐภูมิแสดงออกด้วยวุฒิภาวะที่ต่างไป
นานวันประสบการณ์เหล่านั้นยิ่งแวะเวียนและพูนเพิ่มอย่างมิอาจเลี่ยง การยอมรับและทำความเข้าใจเป็นสิ่งที่ง่ายและเบาสบายที่สุด
ศิลปินกล่าวถึงแนวคิดในครั้งนี้ว่า “ชีวิตนั้นโล่งเปล่าและเปลี่ยวดาย
เกิดแก่เจ็บตายแค่เพียงสามัญลักษณะ มิตรภาพ ความรัก ความผูกพันและการเสียสละเป็นคุณค่าความงามของการดำรงอยู่...และจากไป”
ซึ่งสะท้อนอยู่ในผลงานเช่น “ตั้งอยู่” ที่แสดงถึงความสำคัญของเวลา
เสี้ยววินาทีที่ฉับพลันเปราะบาง ความเสถียรจีรังเพียงชั่วขณะ และผลงานชื่อว่า “เสมอ”อันบ่งถึงพฤติกรรมที่เป็นประจำโดยไม่มีเงื่อนไข
ในภาพเป็นการช่วยเหลือเกื้อกูลด้วยความทุ่มเทระหว่างกันอย่างเต็มที่ การใช้สีเพียงโทนเดียวของผลงานทั้งหมด
ประกอบกับลักษณะของวัตถุที่ดูไร้ชีวิตชีวา ให้ความรู้สึกที่หวั่นไหวและแฝงไว้ด้วยความซาบซึ้ง
ความเหงา แต่กลับทำให้เราเงียบนิ่งและสงบ
การตระหนักถึงคุณค่าความอบอุ่นในจิตใจที่พึงมีต่อกันนั้นสำคัญยิ่งกว่า ดังนั้นคำว่า
”ระแวงลม” สำหรับศิลปินจึงมีความหมายถึงการระแวดระวังไม่ประมาท อยู่อย่างเข้าใจและเตรียมพร้อมอย่างมีสติ “การได้ครอบครองลมสักระยะ นับได้ว่าเป็นความสำเร็จของชีวิต”
รัฐภูมิ ผิวพันธมิตร จบการศึกษาศิลปกรรมศาสตร์บัณฑิต
(ทัศนศิลป์) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและศิลปะมหาบัณฑิต ภาควิชาจิตรกรรม
มหาวิทยาลัยศิลปากร ได้รับโล่เกียรติคุณเยาวชนผู้มีความสามารถดีเด่นและสร้างชื่อเสียงให้แก่ประเทศชาติ มีนิทรรศการเดี่ยวมาแล้วสามครั้งได้แก่ Delusion
2009, Conceal 2012, Misgiving (part
1)
2015 และได้เข้าร่วมนิทรรศการกลุ่มอีกหลายครั้ง
เช่น Art expo Malaysia 2009, "ART TAIPEI" Taiwan 2010, "AHAF"
Hong Kong 2012,
"ASIA CONTEMPORARY ART" Hong Kong 2015 และอื่นๆ ทั้งในและต่างประเทศ
Always เสมอ, 2017
Oil on canvas,
150x180 cm.
Evermore ตลอดไป, 2018
Oil on canvas,
150x180 cm.
Existence no. 1 ตั้งอยู่ หมายเลข 1, 2016
Oil on canvas,
85x100 cm.
Existence no.2 ตั้งอยู่ หมายเลข 2, 2016
Oil on canvas,
85x100 cm.
The Kiss จุมพิต, 2018
Oil on canvas,
80x110 cm.
Together no. 1 ด้วยกัน หมายเลข 1, 2016
Oil on canvas,
150x170 cm.
Together no. 2 ด้วยกัน หมายเลข 2, 2017
Oil on canvas,
110x115 cm.